จุดเริ่มต้นของ Bill Gates กับการสร้าง Microsoft Windows
🏁 จุดเริ่มต้นของ Bill Gates ในการผลิตซอฟต์แวร์
Bill Gates และ Paul Allen ก่อตั้ง Microsoft ในปี 1975 โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ Altair 8800
📌 เหตุการณ์สำคัญ
🔹 Gates และ Allen เห็นโอกาสในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) ซึ่งกำลังเติบโต
🔹 พัฒนา BASIC Interpreter ให้กับ Altair 8800 ทำให้เป็นซอฟต์แวร์ตัวแรกของ Microsoft
🔹 Bill Gates เชื่อว่า “ซอฟต์แวร์จะเป็นหัวใจของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง” และตัดสินใจโฟกัสที่ซอฟต์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์
ระบบ Windows เริ่มจากจุดไหน?
ก่อนจะมี Windows, Microsoft พัฒนา MS-DOS (1981) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบ Command Line
📌 เหตุการณ์สำคัญ
✅ IBM ต้องการระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่อง PC รุ่นแรกของพวกเขา
✅ Microsoft ซื้อ QDOS จาก Seattle Computer Products แล้วพัฒนาต่อเป็น MS-DOS
✅ MS-DOS ประสบความสำเร็จ และถูกติดตั้งในคอมพิวเตอร์ IBM-PC ทั่วโลก
💡 แต่… MS-DOS ใช้งานยาก (ต้องพิมพ์คำสั่ง) → Microsoft จึงพัฒนา Windows ที่มี GUI (Graphical User Interface)
📌 Windows รุ่นแรก (Windows 1.0 – 1985)
🔹 สร้างจากแนวคิด “ทำให้คอมพิวเตอร์ใช้งานง่ายขึ้น”
🔹 ใช้ Mouse + หน้าต่าง (Windows) แทนคำสั่ง Command Line
🔹 แข่งกับ Macintosh ของ Apple ที่เปิดตัวในปี 1984
📌 Windows 95 (1995) – จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่
✅ อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายขึ้น มี Start Menu + Taskbar
✅ รองรับ Plug and Play ทำให้ติดตั้งอุปกรณ์ง่ายขึ้น
✅ ทำให้ Windows ครองตลาด PC ทั่วโลก
💡 ทำไม Bill Gates เลือกผลิตซอฟต์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์?
Bill Gates มองเห็นว่า ซอฟต์แวร์จะเป็นตัวควบคุมตลาดมากกว่าฮาร์ดแวร์
📌 เหตุผลหลัก
🔹 ต้นทุนต่ำกว่า – การพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการผลิตฮาร์ดแวร์
🔹 ขยายตลาดได้ง่าย – ซอฟต์แวร์สามารถติดตั้งได้บนคอมพิวเตอร์หลากหลายยี่ห้อ
🔹 ไม่ต้องลงทุนในโรงงาน – ต่างจาก Apple ที่ต้องผลิตฮาร์ดแวร์ของตัวเอง
🔹 สร้างอิทธิพลเหนืออุตสาหกรรม – คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องต้องใช้ระบบปฏิบัติการ
💡 กลยุทธ์หลักของ Microsoft คือ “เป็นซอฟต์แวร์ที่ทุกคนต้องใช้”
🚀 กลยุทธ์ที่ Bill Gates ใช้ทำให้ Microsoft ติดตลาด
1️⃣ การครองตลาดด้วย “OS Licensing Model”
🔹 แทนที่จะขายฮาร์ดแวร์พร้อมซอฟต์แวร์ Microsoft ขาย License Windows ให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ (OEM) เช่น Dell, HP, Lenovo
🔹 ทำให้ Windows ถูกติดตั้งมากับคอมพิวเตอร์แทบทุกรุ่น
🔹 ส่งผลให้ Microsoft ครองตลาดระบบปฏิบัติการโดยอัตโนมัติ
✅ ผลลัพธ์: Windows กลายเป็นมาตรฐานของคอมพิวเตอร์ PC
2️⃣ ใช้กลยุทธ์ “ผูกขาดทางซอฟต์แวร์”
📌 Microsoft ทำให้ Windows + Office กลายเป็นมาตรฐานของธุรกิจ
✅ บริษัทต้องใช้ Microsoft Office → เพิ่มยอดขาย
✅ Windows + Internet Explorer ผูกติดกัน → ทำให้แข่งขันกับ Netscape ได้
💡 Microsoft ใช้กลยุทธ์นี้จนโดนฟ้องในคดีผูกขาดตลาด
3️⃣ การแข่งขันเชิงรุก (Aggressive Competition)
📌 Microsoft ไม่รอให้คู่แข่งแซงหน้า
✅ ซื้อซอฟต์แวร์คู่แข่งแล้วพัฒนาเป็นของตัวเอง
✅ ใช้ราคาที่ต่ำกว่าเพื่อกดดันคู่แข่ง
✅ นำฟีเจอร์ของซอฟต์แวร์อื่นมาใส่ใน Windows
💡 ตัวอย่าง:
🔹 ฆ่า Netscape ด้วยการให้ Internet Explorer ฟรี
🔹 ลอก Apple GUI เพื่อสร้าง Windows
🔹 สู้กับ Google Docs โดยพัฒนา Office 365
4️⃣ “ขยายอาณาจักร” ผ่านการเข้าซื้อกิจการ
Microsoft ไม่ได้พัฒนาเองทั้งหมด แต่ ซื้อบริษัทที่มีเทคโนโลยีที่ต้องการ
✅ ซื้อ LinkedIn (2016) → ครองตลาด Social Network สำหรับมืออาชีพ
✅ ซื้อ GitHub (2018) → ควบคุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์
✅ ซื้อ Activision Blizzard (2022) → ขยายอิทธิพลในวงการเกม
5️⃣ การเปลี่ยนผ่านจาก Software → Cloud & AI
📌 Microsoft มองเห็นว่าอนาคตคือ Cloud Computing และ AI
✅ พัฒนา Microsoft Azure → แข่งกับ AWS ของ Amazon
✅ ลงทุนใน OpenAI → ใช้ AI ผสานเข้ากับ Windows และ Office
✅ เปลี่ยน Office เป็น Microsoft 365 → สมัครสมาชิกแทนการซื้อขาด
💡 ผลลัพธ์: Microsoft กลายเป็นบริษัท Cloud & AI อันดับต้นๆ ของโลก
🎯 สรุป: อะไรทำให้ Microsoft ประสบความสำเร็จ?
✅ “ไม่ผลิตฮาร์ดแวร์ แต่ครองตลาดด้วยซอฟต์แวร์” – ใช้โมเดล Licensing ครองตลาด PC
✅ “ก้าวข้ามคู่แข่งด้วยกลยุทธ์เชิงรุก” – ใช้ราคา, การผูกขาด, และซื้อกิจการ
✅ “ปรับตัวให้เร็ว” – จาก OS → Cloud → AI
✅ “ครองตลาดองค์กร” – Microsoft 365, Azure, Teams เป็นตัวหลักในธุรกิจ
🚀 “Microsoft เริ่มจาก BASIC → Windows → Cloud & AI แต่ยังคงเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก” 💡