
📌 กรณีศึกษา: สาเหตุที่ Kodak ล่มสลาย
🎞 1. จุดเริ่มต้นของ Kodak และการปฏิวัติฟิล์มสี
📸 Kodak ก่อตั้งขึ้นในปี 1888 โดย George Eastman เป็นบริษัทแรกที่ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ภายใต้สโลแกน “You Press the Button, We Do the Rest”
🟡 Kodak ครองตลาดฟิล์มถ่ายภาพอย่างยาวนาน โดยเฉพาะฟิล์มสี Kodachrome (เปิดตัวปี 1935) ซึ่งทำให้ภาพถ่ายมีสีสันสดใสและคมชัด กลายเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรม
📊 2. กลยุทธ์การตลาดและความสำเร็จของ Kodak
Kodak ประสบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ประการ
1️⃣ การผูกขาดตลาด
- 🏆 Kodak เคยครองตลาดฟิล์มถ่ายภาพกว่า 80%
- 📷 ขายกล้องราคาถูก แต่ทำกำไรจากการขายฟิล์มและน้ำยาอัดรูป
2️⃣ สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
- 🏞 คำว่า “Kodak Moment” กลายเป็นวลีติดปากทั่วโลก
- 📢 โฆษณาและสปอนเซอร์กิจกรรมระดับโลก ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก
3️⃣ ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ
- 💡 Kodak คิดค้น กล้องดิจิทัลตัวแรกของโลกในปี 1975 แต่ไม่ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง
⚠️ 3. จุดเปลี่ยนและสาเหตุที่ Kodak ล่มสลาย
แม้จะเป็นผู้นำตลาด แต่ Kodak กลับล้มเหลวในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม
🔻 1. เมินกระแสกล้องดิจิทัล
- 🔬 แม้จะเป็นผู้คิดค้นกล้องดิจิทัล แต่ Kodak กลัวว่ามันจะทำลายธุรกิจฟิล์มของตัวเอง
- 🎥 คู่แข่งอย่าง Sony และ Canon พัฒนากล้องดิจิทัลและครองตลาด
🔻 2. ปรับตัวช้าและกลยุทธ์ผิดพลาด
- 🖨 Kodak หันไปเน้นขายเครื่องพิมพ์ภาพถ่ายแทนกล้องดิจิทัล ซึ่งไม่ได้รับความนิยม
- ❌ ไม่สามารถสร้าง Ecosystem ที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ได้
🔻 3. ตลาดเปลี่ยนพฤติกรรม
- 📱 คนเริ่มใช้ สมาร์ทโฟนถ่ายรูป มากกว่ากล้องและฟิล์ม
- 🌍 การแชร์ภาพบน Facebook และ Instagram ทำให้การพิมพ์รูปไม่จำเป็น
💀 4. จุดจบของ Kodak
- ⚖️ ปี 2012 Kodak ยื่นขอล้มละลาย
- 💰 ขายสิทธิบัตรหลายรายการเพื่อนำเงินมาใช้หนี้
- 🏭 ปัจจุบันหันไปทำธุรกิจ สิ่งพิมพ์และเคมีภัณฑ์ แต่ไม่สามารถกลับไปเป็นผู้นำตลาดได้อีก
🎯 บทเรียนจาก Kodak
✅ ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง – อย่ายึดติดกับโมเดลธุรกิจเดิม
✅ อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต – เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
✅ นวัตกรรมต้องมาก่อน ไม่ใช่ผลกำไรระยะสั้น – ถ้าปรับตัวช้า อาจเสียโอกาส
🔥 สรุป
Kodak คือตัวอย่างของบริษัทที่ เคยเป็นผู้นำ แต่ ล้มเหลวเพราะไม่ปรับตัว กับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยี จึงเสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งที่พัฒนาได้เร็วกว่า 📉📉